เข้าสู่ระบบ 
บทความที่น่าสนใจ
• การเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม
• เพิ่มผู้เข้าชมด้วย pay-per-click
• เพิ่มผู้เข้าชมด้วยการซื้อจำนวนคลิก
• การเลือกใช้คำค้นหาเว็บไซต์
• การสร้างสังคมออนไลน์
• อัตราการ bounce คืออะไร
• ระบบของ hit และ page view
• วิเคราะห์เส้นทางการเข้าชมเว็บไซต์
• tracking vs log analyzers
• Hit, Page และ Web counters
• พัฒนาอันดับผลการค้นหาใน Google
• การวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์
• Search engine optimization
• นโยบายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล
• การสร้างนโยบายสิทธิส่วนบุคคล
• ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ด้วย ppc
• การบริหารและจัดการเว็บไซต์
• อัตราการแปรเปลี่ยนมาเป็นลูกค้า
• การประยุกต์ใช้ข้อมูล และสถิติต่างๆ
• ทุกเรื่องเกี่ยวกับ cookies
• w3 & นโยบายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของ w3
บริการ tracking คืออะไร
• tracking คืออะไร
• ทำไมต้องใช้บริการ tracking
• บริการ tracking ทำงานอย่างไร
เริ่มต้นใช้บริการ
• 4 ขั้นตอนในการใช้บริการ tracking
• ทดลองใช้บริการ tracking ฟรี
• การติดตั้งโค้ดจาวาสคริป

 
 
 

พัฒนาอันดับผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Google และ PageRank

สาระสำคัญโดยรวม

คุณจะได้รับข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับ :

  • Google PageRank
  • Search Engine และคีย์เวิร์ด/คำค้นหาเว็บไซต์
  • Googlebot และ freshbot
  • หน้าเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับหลักการทำงานของ Google
  • พัฒนาเนื้อหาของเว็บไซต์ให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้

Google yahoo และ MSN

ปัจจุบัน Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก รองลงมา คือ Yahoo ซึ่ง Search Engine หลายๆ ที่ เช่น Inktomi, Altavista, fastsearch และ alltheweb ก็ใช้บริการของ Yahoo โดยมี MSN ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็น Search Engine ที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วมากที่สุดตามมาเป็นอันดับที่ 3

Google ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ Search Engine หลายต่อหลายที่ก็ใช้บริการของ Google เพื่อใช้เป็น Search Engine ให้กับเว็บไซต์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น AOL, Netscape และ Hotbot เป็นต้น

Google จะใช้เทคนิคในการแสดงผลการค้นหาเว็บไซต์ที่แตกต่างจาก Search Engine อื่นๆ ซึ่งเราเรียกเทคนิคนี้ว่า PageRank

Pagerank

PageRank คือ ระบบที่ใช้สำหรับจัดอันดับผลการค้นหาหน้าเว็บไซต์ของ Google

ลิงค์จากหน้าเว็บไซต์อื่นที่มาที่หน้าเว็บไซต์ของคุณ (ส่วนมากจะลิงค์มาที่หน้าแรก) จะถูกเรียกว่า backlink

PageRank ของหน้าเว็บไซต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวน backlink อย่างเดียวเท่านั้น หน้าเว็บไซต์ที่คุณติดตั้ง backlink ก็มีผลเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าหากหน้าเว็บไซต์ที่คุณติดตั้ง backlink ไว้ มี PageRank ที่สูงก็จะทำให้หน้าเว็บไซต์ของคุณมี PageRank สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเราเรียกหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวว่า "หน้าเว็บไซต์คุณภาพ (important page)"

แต่ถึงแม้ว่า หน้าเว็บไซต์ของคุณจะเป็นหน้าเว็บไซต์คุณภาพที่มี PageRank สูงมาก แต่หน้าเว็บไซต์คุณภาพของคุณก็จะไม่มีประโยชน์อันใดเลย ถ้าหากผู้ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตใช้ search term ที่ไม่ตรง หรือไม่มีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาเว็บไซต์หรือคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกใช้ให้กับเว็บไซต์ของคุณ วิธีการค้นหา และแสดงผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Google จึงใช้เทคนิค 2 ประการควบคู่กัน นั่นก็คือ PageRank และ เนื้อหารายละเอียดที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์นั้นๆ

หลักการทำงานของ Google ก็คือ เมื่อผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทำการค้นหาข้อมูลด้วย keyword หรือคำค้นหาเว็บไซต์คำใดคำหนึ่งใน Google จะทำการตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ทุกหน้าในฐานข้อมูล ( database )   หน้าเว็บไซต์ในฐานข้อมูลหน้าใดที่มีคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาเว็บไซต์ ตรงกับคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาเว็บไซต์ที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตใช้มากที่สุด และมี PageRank ของหน้าเว็บไซต์สูงที่สุด หน้าเว็บไซต์นั้น ก็จะถูกจัดแสดงอยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Google

หากคุณต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ PageRank สำหรับเว็บไซต์ของคุณเพิ่มเติม คุณสามารถทำการดาว์นโหลดข้อมูลดังกล่าวได้ที่ Google toolbar ซึ่ง Google toolbar จะจัดแสดงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับ backlink ของเว็บไซต์คุณ หากคุณต้องการความรวดเร็วมากขึ้น คุณก็สามารถทำได้โดยทำการค้นหาข้อมูลใน Google โดยใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาเว็บไซต์คำว่า "link:www.yourname.com"

ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลักการทำงานของ Google เท่านั้น คุณสามารถเลือกชมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับหลักการทำงานของ Google ได้ที่:
http://www.google.com/technology/index.html

วิธีการพัฒนาอันดับผลการค้นหาเว็บไซต์ของคุณใน google

ขั้นตอนแรก

คุณต้องทำการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณอยู่ในฐานข้อมูลของ Google หรือไม่

ในกรณีที่คุณสร้างเว็บไซต์เสร็จสิ้น คุณควรลงทะเบียนเว็บไซต์ใน Google ให้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากต้องใช้เวลาในการลงทะเบียนประมาณ 1 เดือน กว่าที่เว็บไซต์ของคุณจะสามารถปรากฏใน ผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Google ได้

ระยะเวลา 1 เดือนเป็นเพียงการประเมินเท่านั้น ในความเป็นจริงอาจจะใช้เวลามากหรือน้อยกว่า 1 เดือนก็เป็นได้ และถ้าหากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏอยู่ในผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Google เร็วขึ้น คุณสามารถทำได้โดยเพิ่มลิงค์ของเว็บไซต์คุณในเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง เพราะเว็บไซต์เหล่านี้จะมี Googlebot เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ Googlebot เป็น robot-script ขนาดเล็ก โดยมีหน้าที่ค้นหาข้อมูลในหน้าเว็บไซต์ และ robot-script ของแต่ละ Search Engine ก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น spider, bot หรือ crawler เป็นต้น

spider ของ Google มีชื่อเรียกว่า Googlebot ซึ่ง bot ก็จะมีหลายประเภทอีกเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น freshbot ของ Google เป็นต้น freshbot จะเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณทุกครั้งเมื่อคุณทำการปรับปรุงเว็บไซต์ ประโยชน์ของการเข้ามาค้นหาเว็บไซต์ของ freshbot ก็คือ สิ่งที่คุณทำการปรับปรุงจะปรากฏในการแสดงผลการค้นหาเว็บไซต์ของ Search Engine อย่างรวดเร็วแบบวันต่อวัน

ถ้าคุณสามารถเพิ่มจำนวนลิงค์ของเว็บไซต์คุณได้มากขึ้น Googlebot ก็จะเข้ามาตรวจสอบเว็บไซต์คุณมากขึ้น โอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลของ Google ภายใน 24 ชั่วโมงก็ย่อมมีมากขึ้นเช่นเดียวกัน

หากคุณต้องการที่จะทราบว่า freshbot เข้ามาค้นหาเว็บไซต์คุณครั้งสุดท้ายเมื่อใด คุณก็สามารถทำได้โดยทำการค้นหาที่อยู่ของเว็บไซต์คุณ (www.yourname.com) ใน Google เมื่อผลการค้นหาเว็บไซต์ปรากฏขึ้น ให้คลิกที่ "ที่ google เก็บไว้" ด้านบนของหน้าเว็บไซต์ต่อมาที่ปรากฏขึ้นจะจัดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับวัน เดือน ปี และเวลาของการค้นหาเว็บไซต์ของคุณครั้งล่าสุด

การแลกเปลี่ยนลิงค์กับเว็บไซต์พันธมิตร คุณต้องทำการตรวจสอบ PageRank ของเว็บไซต์พันธมิตรด้วย เพราะถ้าหากคุณแลกเปลี่ยนลิงค์กับเว็บไซต์พันธมิตรที่มี PageRank สูง PageRank ของเว็บไซต์คุณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้าม หากคุณแลกเปลี่ยนลิงค์กับเว็บไซต์พันธมิตรที่มีอันดับ PageRank ต่ำมาก PageRank ของเว็บไซต์คุณก็อาจจะลดลงได้ ลักษณะการแลกเปลี่ยนลิงค์ในลักษณะที่ 2 เรียกว่า "bad neighborhood"

หน้าเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับหลักการทำงานของ Google

ถ้าคุณสามารถเพิ่มจำนวนลิงค์ของเว็บไซต์คุณได้มากขึ้น Googlebot ก็จะเข้าค้นหาเว็บไซต์คุณเพิ่มขึ้นด้วย

Googlebot จะทำการค้นหาเว็บไซต์โดยเข้ามาตรวจสอบองค์ประกอบของเว็บไซต์ดังต่อไปนี้:

  • Page title
  • คำอธิบาย meta tag
  • เนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์
  • ลิงค์


องค์ประกอบของเว็บไซต์ดังที่กล่าวมาถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างมากของเว็บไซต์คุณ เพราะองค์ประกอบดังกล่าวได้บรรจุ keywords คุณไว้นั่นเอง

อุปสรรคสำคัญประการหนึ่ง ก็คือ คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาเว็บไซต์นั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น คุณจึงต้องมีความละเอียด และรอบคอบอย่างมากสำหรับการคัดเลือก และคัดสรร keywords ให้กับเว็บไซต์ของคุณเอง

คุณจะต้องทำการคัดเลือกและคัดสรรแต่ละ keyword ที่จะนำมาใช้ให้กับเว็บไซต์ของคุณให้ดีที่สุด วิธีการง่ายๆ ก็คือ ลองสมมุติว่าตนเองเป็นผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต แล้วลองคิดดูว่า คุณจะใช้ keyword ใดในการค้นหาเว็บไซต์

title

คุณต้องทำการตรวจสอบให้มั่นใจว่า คุณได้เลือกใช้ keywords ที่ดีที่สุดเพื่อใช้เป็น title ของเว็บไซต์แล้ว และไม่ควรให้ title มีความยาวเกิน 80 ตัวอักษร เนื่องจาก Search Engine บางที่อาจทำการยกเลิกการลงทะเบียนเว็บไซต์ของคุณได้

คำอธิบาย meta tag

Googlebot จะไม่เข้ามาตรวจสอบคีย์เวิร์ดของ meta tag แต่จะตรวจสอบคำอธิบายของ meta tag ดังนั้น คุณต้องทำการตรวจสอบให้มั่นใจว่า คุณได้เลือกใช้ keywords ที่ดีที่สุดเพื่อใช้เป็นคำอธิบายของ meta tag ให้กับเว็บไซต์ของคุณ

เนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์

คุณต้องทำการตรวจสอบให้มั่นใจว่า คุณได้เลือกใช้ keywords ที่ดีที่สุดเพื่อใช้เป็นเนื้อหาของเว็บไซต์คุณ เพราะการใช้ keyword ที่คัดเลือกมาเป็นชื่อเรื่อง และเนื้อหา การใช้ตัวอักษรหนา หรือเอียงเพื่อเน้น keywords คำบรรยายภาพ ชื่อรูปภาพ ชื่อที่อยู่ของเว็บไซต์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการทำงานของ Googlebot ทั้งสิ้น

ลิงค์ภายในเว็บไซต์

คุณต้องทำการตรวจสอบให้มั่นใจว่า Googlebot จะสามารถเข้ามาตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณได้อย่างแน่นอน เนื่องจาก Googlebot อาจจะไม่สามารถเข้ามาค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ เนื่องจากสาเหตุบางประการ เช่น การใช้เฟรม คุณสามารถแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้คำสั่ง <noframe> หรือใช้แผนที่เว็บไซต์ (sitemap) เพื่อให้ Googlebot สามารถเข้ามาตรวจสอบในทุกๆหน้าของเว็บไซต์คุณได้

เทคนิคพิเศษในการขึ้นอันดับ : เราแนะนำให้คุณมี link เพื่อกลับไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์ และคุณควรใส่ link เป็น www.yourname.com และเราไม่แนะนำให้คุณใส่ www.yourname.com/index.html เนื่องจากสิ่งนี้มีผลในการขึ้นอันดับของ Google Search Engine

เนื้อหา : ปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์ให้มากครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้

การปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ freshbot เข้ามาค้นหาเว็บไซต์คุณบ่อยครั้งขึ้น เนื่องจาก Google Search Engine จะทำการเก็บข้อมูลของหน้าเว็บไซต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ได้ไวกว่าหน้าเว็บไซต์อื่นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย

วิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนอกจากเป็นวิธีที่ช่วยให้ PageRank ของเว็บไซต์คุณเพิ่มขึ้น และทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับต้นๆ ของการแสดงผลการค้นหาเว็บไซต์ใน Search Engine ต่างๆ แล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย

วิธี เทคนิค หรือข้อแนะนำทั้งหมดที่เรากล่าวมา มาจากประสบการณ์ตรงของ Opentracker ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คุณสามารถส่งคำถามหรือข้อสงสัยถึงเราโดยตรงที่นี่ เรามีความยินดี และมีคำตอบที่ดีที่สุดเสมอให้กับคุณ


ชมตัวอย่างบริการ tracking หรือ ลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้บริการฟรี 30 วัน

เข้าชมตัวอย่างการบริการ และ การแสดงข้อมูลของบริการ Tracking ทดลองใช้บริการ Tracking ฟรี 30 วัน

หน้าแรก | แผนที่เว็บไซต์ | ตัวอย่าง | ค่าบริการ | คุณสมบัติ | ช่วยเหลือ | ข้อมูลด้านกฎหมาย | สงวนลิขลิทธิ์ 2005 - 2007